พาณิชย์เดินหน้าดัน FTA ไทย-EU เพิ่มแต้มต่อการค้า ดึงดูดนักลงทุนยุโรป
14 มีนาคม 2568

ทำไม FTA ไทย-EU ถึงสำคัญ?
- เพิ่มโอกาสทางการค้า: ทำให้สินค้าไทยแข่งขันได้ดีขึ้นในตลาดยุโรป
- ลดต้นทุนธุรกิจ: การเปิดตลาดเสรีช่วยลดต้นทุนการนำเข้า-ส่งออก
- ดึงดูดการลงทุน: นักลงทุนยุโรปมีโอกาสเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น
ขณะนี้ ไทยและ EU เจรจา FTA ไปแล้ว 4 รอบ โดยสามารถสรุปผลได้ 2 บท และเริ่มหารือเรื่องการเปิดตลาดสินค้าและบริการแล้ว รอบถัดไป EU จะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 4 เมษายน 2568 และมีเป้าหมายให้การเจรจาสำเร็จภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568
ประเด็นที่อยู่ระหว่างการเจรจา
- การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ
- พลังงานและวัตถุดิบ
- รัฐวิสาหกิจและการอุดหนุน
- การแข่งขันทางการค้า
- ระบบอาหารที่ยั่งยืน
EU คือคู่ค้าสำคัญของไทย
- เป็น อันดับ 4 รองจากจีน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น
- มูลค่าการค้ารวม 43,533 ล้านดอลลาร์ หรือ 7.17% ของการค้าทั้งหมดของไทย
- ไทยส่งออกไป EU 24,205 ล้านดอลลาร์ สินค้าหลัก ได้แก่ คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน อัญมณี เครื่องปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ยาง และชิ้นส่วนรถยนต์
- ไทยนำเข้าจาก EU 19,328 ล้านดอลลาร์ เช่น เครื่องจักร ผลิตภัณฑ์เวชกรรม อุปกรณ์การบิน เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรไฟฟ้า
นอกจากการเจรจา FTA กระทรวงพาณิชย์ยังหารือกับ นายเดวิด เดลี เอกอัครราชทูต EU ประจำประเทศไทย เกี่ยวกับประเด็นสำคัญ เช่น การนำเข้าสินค้าเกษตรไทยไปยังตลาดยุโรป และกฎหมายต่อต้านประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing)
หากไทยสามารถสรุปผล FTA กับ EU ได้สำเร็จ จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งขึ้น เพิ่มโอกาสทางการค้า ลดต้นทุน และดึงดูดนักลงทุนยุโรปได้มากขึ้น ถือเป็นก้าวสำคัญที่ต้องจับตา!
ที่มาข้อมูล : กรุงเทพธุรกิจ