จีนเป็นผู้นำเข้าทุเรียนรายใหญ่ที่สุดในโลก ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567
27 พฤศจิกายน 2567
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว เปิดเผยรายงานการนำเข้าทุเรียนสดของจีน โดยระบุว่าจีนเป็นผู้นำเข้าทุเรียนรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 จีนได้นำเข้าทุเรียนสดปริมาณ 1.38 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่าถึง 6.2 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการไทยจึงควรให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานสินค้า เพื่อรักษาตำแหน่งในตลาดสำคัญนี้
ทุเรียน: ผลไม้ยอดนิยมในตลาดจีน
ในปี 2566 การบริโภคทุเรียนในจีนคิดเป็น 91% ของการบริโภคทุเรียนทั้งหมดทั่วโลก ข้อมูลจากกรมศุลกากรจีนระบุว่า ปริมาณการนำเข้าทุเรียนในปี 2566 อยู่ที่ 1.42 ล้านตัน มูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกันยายน 2567 ปริมาณนำเข้าทุเรียนแตะที่ 1.38 ล้านตัน และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
การแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดอาเซียน
ในเดือนกันยายน 2567 จีนได้นำเข้าทุเรียนจากเวียดนามปริมาณ 167,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 640.7 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมีอัตราเพิ่มขึ้น 90% ในด้านปริมาณ และ 71.5% ในด้านมูลค่า ขณะเดียวกัน การนำเข้าทุเรียนจากไทยในเดือนเดียวกันอยู่ที่ 58,000 ตัน มูลค่า 243.2 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าปริมาณเพิ่มขึ้น 5.3% แต่มูลค่ากลับลดลง 8.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดนี้
การขนส่ง: ปัจจัยสำคัญในการรักษาตลาด
หนึ่งในความท้าทายของผู้ส่งออกทุเรียนไทยคือการจัดส่งสินค้าให้รวดเร็วและสดใหม่ การเปิดใช้เส้นทางรถไฟจีน-ลาวทำให้การขนส่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้เวลาเพียง 2 วันในการขนส่งจากไทยไปคุนหมิง ซึ่งเดิมเคยใช้เวลาทางทะเล 7 วัน หรือทางรถยนต์ 5 วัน วิธีนี้ยังช่วยลดต้นทุนการขนส่งต่อคอนเทนเนอร์จาก 70,000 หยวน เหลือเพียง 20,000 หยวน ลดต้นทุนได้ถึง 70% ส่งผลให้ราคาทุเรียนในตลาดจีนลดลงระหว่าง 20% - 50% ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของไทย
กลยุทธ์สำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทย
แม้ว่าตลาดทุเรียนในจีนจะมีการแข่งขันสูง แต่ไทยยังคงเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุด ด้วยปริมาณส่งออกในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 755,000 ตัน มูลค่า 3.73 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้อง:
- ควบคุมคุณภาพ: ป้องกันปัญหาทุเรียนอ่อนและแมลงศัตรูพืช เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค
- พัฒนาสายพันธุ์: ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดสมัยใหม่
- ปรับปรุงการขนส่ง: ใช้ประโยชน์จากเส้นทางรถไฟจีน-ลาวอย่างเต็มที่
อนาคตทุเรียนไทยในตลาดจีน
ในขณะที่ประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ กำลังเร่งแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด ทุเรียนสดของไทยยังมีจุดแข็งด้านคุณภาพที่โดดเด่น หากสามารถรักษามาตรฐานและพัฒนาให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคได้ ก็จะช่วยให้ทุเรียนไทยคงความเป็นผู้นำในตลาดจีนได้ในระยะยาว
ที่มาขอข้อมูล : ฐานเศรษฐกิจ