บทความที่เป็นประโยชน์

ยอดข้าวส่งออก-มันสำปะหลัง ไตรมาสแรก พุ่งตามความต้องการของตลาดโลก

17 พฤษภาคม 2566

ข้าวส่งออก

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวและมันสำปะหลังของไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2566  ขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออกสินค้าข้าว มีปริมาณ 2.06 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา 18.48% หรือ 321,625 ตัน ขณะที่มีมูลค่า 38,066 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.26% หรือ 8,616 ล้านบาท โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ อิรัก คิดเป็น 16.38% ของปริมาณส่งออกข้าวไทยทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ อินโดนีเซีย 13.08% , สหรัฐอเมริกา 8.62% , แอฟริกาใต้ 8.24%  และ เซเนกัล 5.86%

สาเหตุที่การส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นมากเป็นผลจากประเทศในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกา เช่น อินโดนีเซีย บังกลาเทศ อิรัก แอฟริกาใต้ และเซเนกัล ยังคงมีความต้องการนำเข้าข้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการข้าวในประเทศ และรักษาความมั่นคงทางอาหาร ประกอบกับในปี พ.ศ. 2566 นี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่า ปริมาณผลผลิตข้าวไทยจะเพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำที่เพียงพอ โดยผลผลิตข้าวนาปรังจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือน มีนาคม - เมษายน พ.ศ. 2566 ทำให้ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ แม้ราคาข้าวขาวของไทยยังสูงกว่าเวียดนามประมาณตันละ 60 ดอลลาร์

ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังมีปริมาณ 3.29 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี พ.ศ. 2565
ที่ผ่านมา 7.17% หรือ 220,000 ตัน ขณะที่มีมูลค่า 39,982.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.81% หรือ 1,834.15 ล้านบาท
โดยสินค้าส่งออกสำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่

  • อันดับ 1  คือ มันเส้นหรือมันอัดเม็ด ส่งออกได้ 1.74 ล้านตัน สัดส่วน 53.06% ของปริมาณการส่งออก
    มันสำปะหลังทั้งหมด ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ จีน สัดส่วน 98.64%  เนเธอร์แลนด์ 0.86% 
    มาเก๊า 0.36% และญี่ปุ่น 0.08%
  • อันดับ 2 คือ แป้งมันสำปะหลัง 1.44 ล้านตัน สัดส่วน 43.82%  ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ จีน 47.20%  ญี่ปุ่น 11.28%  อินโดนีเซีย 8.06%  มาเลเซีย 4.81%  สหรัฐอเมริกา 4.18%  เกาหลีใต้ 3.38%
  • อันดับ 3 คือ กากมันหรือสาคู 102,648 ตัน สัดส่วน 3.12% ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เกาหลีใต้ 36.43%, จีน 21.39%, นิวซีแลนด์ 18.32% และบังกลาเทศ 2.47%

สำหรับการผลักดันการค้าชายแดน กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มีแผนจัดมหกรรม
การค้าชายแดนโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
รวม 3 โครงการ คือ

  1. มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ด้านกัมพูชา จัดที่ จังหวัด สระแก้ว
    ช่วงเดือนมิถุนายน  พ.ศ. 2566
  2. มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ด้านลาว จัดที่ จังหวัด หนองคาย
    ช่วงเดือนกรกฎาคม  พ.ศ. 2566
  3. มหกรรมการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย จัดที่ จ.นราธิวาส ช่วงเดือน สิงหาคม พ.ศ. 2566

ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า โดยเป็นงานแสดงและจำหน่ายสินค้าและบริการ

ของผู้ประกอบการในภูมิภาคและส่วนกลางที่สนใจ เช่น สินค้าจากผู้ประกอบการ OTOP และ SMEs สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเเฟรนไชส์ และสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน การฝึกอบรม สัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ
 

เพื่อให้ความรู้ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการประกอบธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพด้านการค้าต่างประเทศ กฎระเบียบ สิทธิประโยชน์ การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า มาตรการทางการค้า และการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน

 

ที่มาแหล่งข้อมูล :  MGR ON LINE การค้า-อุตสาหกรรม-คมนาคม

 

--------------------------

สอบถามบริการ BTL 

02-681-2005ถึง9 

www.bkkterminal.com 

m.me/BangkokTerminalLogistics 

<< กลับไปหน้าบทความ

บทความอื่นๆ