บทความที่เป็นประโยชน์

พาณิชย์ หารือ จีน แก้อุปสรรคส่งออกตลาดผลไม้ไทย ดันยอดเข้าเป้าเพิ่ม 10 %

2 พฤษภาคม 2566

ตลาดผลไม้ไทย

ประเทศจีนถือเป็นตลาดผลไม้สำคัญของไทย โดยในปี 2565 ไทยครองแชมป์อันดับ 1 ประเทศที่จีนนำเข้าผลไม้มูลค่าสูงสุด ปริมาณการนำเข้าที่2.17ล้านตันมูลค่า 4,900 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น3.72 %

เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ถือเป็นมณฑลสำคัญในการนำเข้าผลไม้ของไทย โดยในปี 2565 ไทยส่งออกผลไม้ไปยังเมืองคุนหมิง 3 ทางคือ ทางอากาศผ่านสายการบิน 2.ทางบกผ่านทางด่านโม่ฮาน และ3.ทางรถไฟลาว-จีน (เปิดใช้เดือนพ.ย.2565 ) รวม 276,000 ตัน ซึ่งเส้นทางหลักที่สำคัญคือ ส่งออกผ่านทางบกผ่านด่านโม่ฮาน เป็นด่านรถบรรทุก ปริมาณ 270,000 ตัน และด่านรถไฟโม่ฮาน ซึ่งเปิดใช้บริการเมื่อเดือนพ.ย.2565 จนถึงปัจจุบันมีจำนวน 3,700 ตัน

เพื่อเป็นการรองรับปริมาณผลไม้ไทยในฤดูผลไม้ที่จะถึงนี้ คาดการณ์ว่าปีนี้ปริมาณผลไม้ไทยจะออกสู่ตลาดไม่ต่ำกว่า 6,780,000 ตัน เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน ทำให้กระทรวงพาณิชย์ โดยปลัดกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และคณะ ได้เดินทางเยือนมณฑลยูนนาน ประเทศจีน สำรวจด่านโม่ฮาน และด่านรถไฟโม่ฮาน ในระหว่างวันที่ 27-29 มี.ค.ที่ผ่านมา

เพื่อหารือกับหน่วยงานผู้บริหารด่านศุลกากร เพื่อขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งออกผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีน พร้อมตรวจสอบพื้นที่ลานตรวจสอบจำเพาะของสินค้าผลไม้ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการขนส่งในฤดูผลไม้ของไทยผ่านด่านสำคัญของจีน

เนื่องจากที่ผ่านมาไทยประสบปัญหาการส่งออกผลไม้ไปจีนจากนโยบาย Zero-COVID ของจีน ที่มีการตรวจตราผลไม้อย่างเข้มงวดตามด่านนำเข้าหลายแห่ง จนรถขนส่งผลไม้ไทยที่รอตรวจสอบต้องจอดตกค้างที่บริเวณด่านชายแดนจีน เป็นเวลาหลายวันส่งผลให้ผลไม้เน่าเสีย สร้างความเสียหายให้กับผู้ส่งออก โดยปัญหานี้เกรงจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผลไม้ยอดนิยมส่งออกของไทยที่ปีนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลผลผลิตออกสู่ตลาด

 

นาย กีรติ  รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ด่านทางบกโม่ฮาน เป็นด่านรถบรรทุก เดิมการจราจรเข้า-ออก ค่อนข้างหนาแน่นจากการเดินรถช่องทางเดียว โดยในช่วงฤดูกาลผลไม้จะมีรถเข้าออกด่านประมาณ 500 คันต่อวัน และเจ้าหน้าที่จะต้องทำงานล่วงเวลาถึง 20.00-21.00 น. แต่ปัจจุบันจีนเปิดช่องทางเดินรถเพิ่ม
(เข้า-ออก คนละช่องทาง) ส่งผลให้การระบายรถขนส่งสินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันทางการจีนได้ยกเลิกมาตรการ Zero COVID โดยไม่ตรวจกรดนิวคลีอิกทั้งคนขับรถและสินค้าแล้ว

ส่วนด่านรถไฟโม่ฮาน สามารถนำเข้าผลไม้ด้วยตู้ Cold chain ได้ โดยมีเที่ยวรถไฟลาว-จีนขนส่งสินค้าเข้าจีน
7 ขบวนต่อวัน (Cold chain และ Non Cold chain) และลานตรวจจำเพาะสินค้า มีช่องตรวจสินค้าผลไม้ ธัญพืช และสัตว์น้ำแช่เย็น รวมทั้งสิ้น 26 ช่องตรวจ แบ่งเป็นช่องตรวจจำเพาะสินค้าผลไม้ 15 ช่องตรวจ ธัญพืช 7 ช่องตรวจ และสัตว์น้ำแช่เย็น 4 ช่องตรวจ ปัจจุบันเปิดใช้งานเฉพาะลานตรวจสินค้าผลไม้ ขณะที่ลานตรวจสินค้าธัญพืชและสัตว์น้ำแช่เย็น หน่วยงาย GACC ของจีนได้เข้ามาทำการตรวจรับการก่อสร้างแล้ว และคาดว่าจะประกาศให้ลานดังกล่าว สามารถนำเข้าสินค้าเฉพาะที่เกี่ยวข้องได้ในเร็วๆนี้

โดยตั้งแต่มีการเปิดใช้งานลานตรวจจำเพาะสินค้าผลไม้เมื่อปลายปี 2565 จนถึงวันที่ 14 มี.ค.2566 มีการขนส่งผลไม้โดยผ่านเส้นทางรถไฟลาว-จีนทั้งสิ้น 22 ล็อต 157 ตู้ ปริมาณรวม 3,675 ตัน ผลไม้ ได้แก่ ทุเรียน 4 ตู้ ลำไย 90 ตู้ กล้วย 53 ตู้ และผลไม้อื่นๆ เช่น ส้มโอ มะพร้าวและมะม่วง 10 ตู้ คาดว่าในช่วงฤดูกาลผลไม้ที่จะถึงนี้ จะมีปริมาณผลไม้ไทยผ่านเส้นทางนี้เพิ่มมากขึ้น

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2566 ช่วงเวลา 11.30-13.00 น. สคต.คุนหมิงได้เดินทางเข้าสำรวจสถานีรถไฟหวังเจียหยิงตะวันตก และได้พบหารือกับตัวแทนของบริษัท Speed Inter Transport Co., Ltd. เนื่องในโอกาสที่ทางบริษัทได้มีการขนส่งผลไม้ไทยจำนวน 23 ตู้มาถึงนครคุนหมิง โดยรถไฟลาว-จีน โดยมีประเด็นสรุป ดังนี้

 ⁃ ผลไม้จำนวน 23 ตู้ของบริษัท Speed Inter Transport Co., Ltd. ประกอบด้วย ทุเรียน 21 ตู้ มังคุด 2 ตู้
แบ่งออกเป็นการขนส่งมายังตลาดจินหม่าเจิ้งชาง นครคุนหมิงจำนวน 3 ตู้ และที่เหลือจะส่งต่อไปยังเมืองอื่น ๆ ของจีน โดยรถบรรทุก เช่น นครฉงชิ่ง กวางโจว เมืองเฉิงตู เมืองฉางซาและเจียซิน เป็นต้น ทั้งนี้ การขนส่งผลไม้ขบวนนี้ถือเป็นขบวนแรกที่บริษัทได้ขนส่งผลไม้ไทยผ่านเส้นทางรถไฟลาว-จีน โดยไม่ต้องเปลี่ยนมาใช้เส้นทางบกโม่ฮาน (ด่านรถบรรทุก)

 ⁃ รัฐบาลจีนได้ให้การสนับสนุนค่าขนส่งของรถไฟลาว-จีนให้กับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ของจีนตั้งแต่มีการเปิดใช้ในปลายปี 2564 โดยผู้ประกอบการจะสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้ในอัตรา 40-50% ของค่าขนส่งตามประเภทสินค้า โดยสินค้าทุเรียนจะได้รับการสนับสนุนอยู่ที่อัตรา 50% ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่ช่วยให้ทางบริษัทสามารถกำหนดค่าบริการขนส่งทางรางได้ใกล้เคียงและแข่งขันได้กับการขนส่งโดยรถบรรทุก

โดยการขนส่งทางรางใช้เวลาจากประเทศไทยถึงนครคุนหมิงประมาณ 3 วัน จึงนับว่าเป็นสัญญาณที่ดีในตลาดผู้ให้บริการด้านการขนส่งทางรางผ่านเส้นทางรถไฟลาว-จีน ที่อาจจำเป็นต้องปรับราคาค่าขนส่งลดลง ให้แข่งขันได้ ซึ่งจะเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการไทยได้ใช้ประโยชน์จาก mode การขนส่งต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

 ⁃ นับตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2564 สถานีหวังเจียหยิงตะวันตกมีการนำเข้าสินค้าจำนวน 5,600 ตู้ โดยมีสินค้าหลัก ได้แก่ สินค้าเกษตรและผลไม้ และมีการส่งออกสินค้าจำนวน 9,600 ตู้ โดยมีสินค้าหลัก ได้แก่ สินค้าผ้าทอ ปุ๋ยเคมี เครื่องจักร ชิ้นส่วนเครื่องมือและผักสด เป็นต้น

“ขณะนี้ผลไม้ไทยกำลังออกสู่ตลาด จะต้องคอยอำนวยความสะดวก และหากมีปัญหาติดขัด ต้องเข้าไปแก้ไขทันที หากจำเป็นต้องแก้ไขในระดับนโยบาย ก็ให้รายงานเข้าส่วนกลางอย่างเร่งด่วน เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาอุปสรรคได้ทันการณ์ และไม่กระทบต่อการส่งออกผลไม้ของไทย” นายกีรติ กล่าว 

อย่างไรก็ตามอุปสรรคที่เป็นปัญหาสำหรับผู้ส่งออกคือ ต้นทุนการขนส่งทางรถไฟลาว-จีน มีต้นทุนที่สูงกว่าทางบก โดยเฉพาะปัญหาค่าขนส่งการขนถ่ายสินค้า ไปยังรถไฟลาว-จีน ได้ แต่การขนส่งผ่านทางรถไฟมีข้อดีคือ ระยะเวลาการขนส่งสั้น สามารถเชื่อมต่อไปยังระบบโลจิสติกส์ของจีนได้รวดเร็ว ส่งผลดีต่อการส่งออกผลไม้ของไทยที่เป็นสินค้าเน่าเสียได้งาน โดยปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องของการร่วมทุนของจีนและลาว ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการหารือกันเพื่อให้ข้อสรุปคาดว่าจะสามารถลดลงในได้ในอนาคต

ทั้งนี้ในปี 2566 กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายผลักดันการส่งออกผลไม้สดไปจีน ตั้งเป้าเพิ่ม 10% จากปี 65 มูลค่า 4,287 ล้านดอลลาร์หากการขนส่งหรือระบบโลจิสติกส์ไม่มีปัญหาก็จะให้การขนส่งผลไม้ไทยไปจีนได้สะดวกรวดเร็วเป็นแต้มต่อผลไม้ไทยและ หากว่าปลดล๊อคปัญหาต้นทุนสูงจากการขนส่งด่านรถไฟโม่ฮาน ก็จะกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางการขนส่งสินค้าที่สำคัญช่วยยอดส่งออกผลไม้ได้เพิ่มขึ้นอีก เพราะปัจจุบันตลาดผลไม้ในจีนมีอัตราการแข่งขันที่นับวันจะยิ่งสูงมากยิ่งขึ้น จากคู่แข่งหลายประเทศที่ต้องการแย่งส่วนแบ่งตลาดจีน

 

ที่มาแหล่งข้อมูล : กรุงเทพธุรกิจ

--------------------------

ติดต่อสอบถามบริการ BTL 

02-681-2005 ถึง 9 

www.bkkterminal.com 

m.me/BangkokTerminalLogistics 

<< กลับไปหน้าบทความ

บทความอื่นๆ