ไทยกับมาตรการแก้ปัญหา การส่งออกผลไม้ไปจีน 2564
26 ธันวาคม 2564
ไทย..กับมาตรการแก้ปัญหาการส่งออกผลไม้ไปจีน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการตอบกระทู้ถามสดเกี่ยวกับปัญหาการส่งออกผลไม้ และราคาผลไม้ กลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 3 ครั้งที่ 17 (สมัยสามัญประจําปีครั้งที่ 2) ณ ห้องประชุมชั้น 2 รัฐสภา ว่า การส่งออกผลไม้ไทยในช่วง 10 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ต.ค.) ตลาดจีนเป็นตลาดที่สำคัญที่สุด มีสัดส่วน 85%
แม้จะมีปัญหาอุปสรรคในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และมีปัญหาการปิดด่าน แต่การส่งออกยังคงขยายตัวได้ถึง 86% เพราะกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าหลายครั้ง
โดยเฉพาะด่านสำคัญ คือ ด่านโหย่วอี้กวนกับด่านโม่ฮาน ซึ่งโม่ฮานเป็นด่านใหญ่ และเป็นด่านสำรองหากเกิดปัญหาที่ด่านโหย่วอี้กวน ทำให้สามารถมีเส้นทางส่งผลไม้เข้าจีนได้อีกทางหนึ่ง
โดยยกตัวอย่างการแก้ปัญหาล่าสุด ที่จีนได้ปิดด่านโม่ฮาน เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2564 จากมาตรการป้องกันโควิด-19 จึงได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์และทูตเกษตร เจรจากับทางการจีนขอผ่อนปรนมาตรการ และเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2564 ได้พบกับเอกอัครราชทูตจีนคนใหม่
โดยฝากข้อความไปยังรัฐบาลจีนและผู้รับผิดชอบเร่งรัดเปิดด่าน เพียง 2 สัปดาห์ต่อมาก็ได้เริ่มเปิดทดลองระบบ และให้สินค้าไทยข้ามด่านโม่ฮานไปจีนได้
ภายใต้มาตรการคุมเข้ม ให้รถจากไทยเข้าไปจีนได้ไม่เกิน 150 คันต่อวัน และรถจากจีนเข้าไทยได้ไม่เกิน 180 คันต่อวัน สำหรับผลการเปิดทดลองระบบ วันที่ 1-14 ธ.ค.2564 มีรถจากไทยส่งสินค้าไปจีนแล้ว 212 คัน
ซึ่งจีนพยายามผ่อนปรนและมีกำหนดเบื้องต้นว่าจะเปิดด่านเต็มรูปแบบให้ได้ในช่วงต้นปี 2565
นายจุรินทร์ กล่าวต่อ สำหรับการป้องกันการปนเปื้อนโควิด-19 ในการส่งออกผลไม้ไปจีน ไทยได้ดำเนินการคุมเข้ม ไม่เฉพาะทุเรียนกับลำไย แต่รวมผลไม้อื่น ๆ ทุกชนิด ตรวจสอบตั้งแต่ต้นทาง เอาผลไม้ขึ้นตู้ เข้าตู้ ปิดตู้ ก็จะมีการฉีดพ่นอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถึงด่านชายแดน จะมีการตรวจสอบให้สินค้าปลอดเชื้อโควิด-19 รวมถึงผลไม้กระป๋องและอาหารทะเลกระป๋อง เพราะตระหนักว่าในสถานการณ์โควิด-19 สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ สินค้าไทยต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าทั่วโลกได้ และสามารถออกใบรับรองให้ได้
รวมทั้งมีมาตรการที่ครบถ้วน จึงสามารถนำเข้าจีนได้ จากนโยบายซีโร่โควิด-19 ที่เข้มงวด
ส่วนมาตรการดูแลผลไม้ปี 2565 ได้มีมาตรการเชิงรุกออกมาชัดเจน ก่อนที่ผลไม้จะออก โดยมีมาตรการ 17+1 หรือ 18 มาตรการ โดยมาตรการ +1 เป็นมาตรการทางภาคใต้ ที่เพิ่มเข้ามา
โดยมีมาตรการหลากหลาย ทั้งช่วยเหลือสนับสนุนผู้รวบรวมผลไม้ หรือล้ง มีมาตรการหาตลาดล่วงหน้า การจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจ เพื่อหาตลาดให้ผลไม้ล่วงหน้า
ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ มีผู้นำเข้ากว่า 10 ประเทศ มาเจรจากับผู้ส่งออกไทย 180 บริษัท คาดว่าจะตกลงซื้อขายกันได้มาก
ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ที่เป็นปัญหาใหญ่ของทุกประเทศในโลก ได้มีการจับมือกับภาคเอกชนประชุม กรอ.พาณิชย์ แก้ปัญหาเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น
โดยปี 2563 สามารถสร้างจุดสมดุลได้ ความต้องการใช้ 1,100,000 ตู้ แต่มี 1,200,000 ตู้ แม้บางช่วงจะขาดแคลน แต่ก็เป็นอุปสรรคทั่วโลก ซึ่งถือว่าแก้ปัญหาในภาพรวมได้ดี ทำให้การส่งออกใน 10 เดือนบวกเกือบ 40% ขณะที่เจอวิกฤตมากมาย รวมทั้งโควิด-19
แหล่งข้อมูล : ประชาชาติธุรกิจ
----------------------------
ติดต่อสอบถามบริการ BTL
02-681-2005 ถึง 9
www.bkkterminal.com
m.me/BangkokTerminalLogistics