ส่งออกไทย ก.ย. 64 ยอดโตต่อเนื่อง ขยายตัวถึง 17.1%
5 พฤศจิกายน 2564
ส่งออกไทย ก.ย. 64 ยอดโตต่อเนื่อง ขยายตัวถึง 17.1%
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาพการส่งออกของไทยเดือนกันยายน 2564 ว่ามีมูลค่า 23,036 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือขยายตัวถึง 17.1% โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ขณะที่การนำเข้าเดือนกันยายน 2564 มีมูลค่า 22,426.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 30.3% ส่งผลให้ไทยได้ดุลการค้าเกินดุล 609.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนภาพรวมการส่งออก 9 เดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่า 199,997.7 ล้าน ไทยได้ดุลการค้า 9 เดือนแรก เกินดุล 2,016.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับกลุ่มสินค้าที่ขยายตัวดีและเป็นโอกาสในการส่งออก ได้แก่
1) สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางพารา น้ำมันปาล์ม น้ำตาลทราย อาหารสัตว์เลี้ยง และสิ่งปรุงรสอาหาร
2) สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ เตาอบไมโครเวฟ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องโทรศัพท์และอุปกรณ์
3) สินค้า เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์
4) สินค้าขั้นกลางหรือสินค้าวัตถุดิบ เช่น เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยาง แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
5) สินค้าคงทนหรือสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีราคาสูง เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) ยังขยายตัวได้ดี
นายจุรินทร์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกเดือนกันยายนยังดีและเป็นบวกถึง 17.1% ทั้งที่ไทยประสบกับปัญหาโควิดและปัญหาภาคการผลิตล็อกดาวน์ในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่
1. แผนงานส่งเสริมการส่งออกที่กำหนดไว้เป็นรูปธรรม 130 กิจกรรมช่วงครึ่งปีหลัง2564 บรรลุผลและเป็นการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพของกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการเจรจาเปิดตลาดใหม่ทั้งตลาดตะวันออกกลาง ตลาดแอฟริกาหรือลาตินอเมริกา ประสบความสำเร็จ และที่สำคัญ คือ การที่กระทรวงพาณิชย์จับมือกับภาคเอกชน เร่งรัดการแก้ปัญหาสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมทั้งตู้คอนเทนเนอร์ การแก้ปัญหาด่านชายแดนไทย-เวียดนาม ไทย-จีน เป็นต้น รวมทั้งการเร่งรัดการเปิดด่านที่สำเร็จ
2. ภาวะเศรษฐกิจโลกเริ่มดีขึ้น WTO คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าขนาดจีดีพี บวก 8% แต่ประเมินใหม่เพิ่มเป็น 10.8% รวมถึงในประเทศมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ การใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเตรียมเปิดประเทศ ในหลายประเทศช่วยการส่งออกไทยโตตามไปด้วย
3. ค่าเงินบาทยังอ่อนกว่าปีก่อนช่วยทำให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ดีขึ้น
4. ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น แต่มี 2 มุม แง่ลบคือทำให้ต้นทุนการผลิตแพงขึ้น แต่ก็ทำให้สินค้าส่งออกสินค้าเกี่ยวข้องกับน้ำมัน มีมูลค่าเพิ่มขึ้นด้วย
5. ศักยภาพภาคเอกชนไทยเข้มแข็ง ทำให้ภาคการผลิตด้านอุตสาหกรรมฟื้นตัวเร็ว แม้เจอกับภาวะการล็อกดาวน์ และโควิด ดูได้จากตัวเลขการนำเข้าวัตถุดิบและสินค้าทุนเครื่องจักรต่างๆในช่วงเดือนกันยาบวกถึง 33% จะดีต่อการส่งออกในอนาคต และทำให้กระทรวงพาณิชย์มั่นใจต่อการส่งออกดีขึ้นจากนี้
แหล่งอ้างอิง : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
----------------------------
ติดต่อสอบถามบริการ BTL
02-681-2005ถึง9
www.bkkterminal.com
m.me/BangkokTerminalLogistics