บทความที่เป็นประโยชน์

ส่งออกข้าวไทยครึ่งปีเเรก ทะลุ 5.08 ล้านตัน มูลค่ากว่า 1.17 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.50%

15 สิงหาคม 2567

ส่งออกข้าวไทย พืชเศรษฐกิจ

ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของประเทศไทย โดยมีการเพาะปลูกในพื้นที่กว่า 50 ล้านไร่ และมีปริมาณการผลิตเฉลี่ยกว่า 25 ล้านตันต่อปี การส่งออกข้าวจึงเป็นเสาหลักที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยสร้างรายได้ให้กับประเทศมหาศาลและมีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ครองตำแหน่งผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 25% ของปริมาณการส่งออกข้าวทั่วโลก ปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในด้านการส่งออกข้าว ได้แก่ สภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าว แรงงานที่มีทักษะ และนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนการส่งออกข้าว   ข้าวที่ส่งออกจากประเทศไทยมีหลากหลายประเภท โดยประเภทที่สำคัญ ได้แก่ ข้าวขาว ข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนียว ข้าวขาวเป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดโลก เนื่องจากมีราคาถูกและสามารถนำไปใช้ประกอบอาหารได้หลากหลาย ข้าวหอมมะลิเป็นข้าวที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคระดับกลางและระดับสูง ส่วนข้าวเหนียวเป็นข้าวที่นิยมบริโภคในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยส่งออกข้าวไปยังกว่า 150 ประเทศทั่วโลก โดยตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากประเทศผู้ส่งออกข้าวรายอื่นๆ เช่น อินเดียและเวียดนาม อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยรวมถึงการปรับปรุงพันธุ์ข้าว การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการส่งเสริมการตลาดข้าวไทยในต่างประเทศ

 

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 6 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย.) มีปริมาณ 5.08 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 25.12% มูลค่า 117,836 ล้านบาท (ประมาณ 3,304 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 55.50% โดยได้รับผลดีจากผู้นำเข้าข้าวมีความต้องการนำเข้าข้าวเพื่อใช้บริโภคและเก็บเป็นสต็อกเพื่อความมั่นคงทางอาหาร ประกอบกับอินเดียยังคงใช้มาตรการควบคุมการส่งออกข้าว และค่าเงินบาทอ่อนค่าอยู่ที่ประมาณ 36–37 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ทำให้ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้

ทั้งนี้ กรมยังได้ประชุมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อหารือแนวโน้มสถานการณ์การส่งออกข้าวไทยในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 โดยเห็นตรงกันว่า จะปรับเป้าส่งออกปีนี้ เพิ่มเป็น 8.2 ล้านตัน จากเดิม 7.5 ล้านตัน โดยมีปัจจัยบวกจากประเทศผู้นำเข้าสำคัญอย่างฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย มีความต้องการนำเข้าข้าว เพื่อบรรเทาผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อและภัยแล้ง โดยรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้มีคำสั่งปรับลดอัตราภาษีนำเข้าข้าวจากเดิม 35% เหลือ 15% จนถึงปี 2571 เพื่อควบคุมแรงกดดันเงินเฟ้อของสินค้าข้าวภายในประเทศ และคาดว่าในปีนี้ฟิลิปปินส์มีแนวโน้มนำเข้าข้าวสูงถึง 4.70 ล้านตัน ขณะที่อินโดนีเซียมีแนวโน้มนำเข้าข้าวประมาณ 3.60–4.30 ล้านตัน ขึ้นอยู่กับปริมาณผลผลิต จึงเป็นโอกาสในการส่งออกข้าวของประเทศผู้ส่งออก โดยเฉพาะไทย

ขณะเดียวกัน ยังมีแรงหนุนจากปริมาณผลผลิตข้าวนาปีของไทยที่จะออกสู่ตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งคาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนและปริมาณน้ำสำหรับเพาะปลูกเพิ่มขึ้น จากภาวะเอลนีโญคลี่คลายลง ส่งผลให้ราคาข้าวไทยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงและแข่งขันได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามมาตรการการส่งออกข้าวของอินเดีย ซึ่งรัฐบาลอินเดียอาจผ่อนคลายมาตรการควบคุมการส่งออกข้าวก่อนผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตหลักจะออกสู่ตลาดในเดือน ต.ค.2567 อีกทั้งยังมีการคาดการณ์ว่าปริมาณผลผลิตข้าวของประเทศผู้ส่งออกข้าว ได้แก่ เวียดนาม ปากีสถาน เมียนมา และกัมพูชา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผลผลิตข้าวในตลาดโลกเพิ่มขึ้นและมีการแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง รวมทั้งมีปัจจัยเสี่ยงจากความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้ากลุ่มพลังงานและสถานการณ์ความผันผวนของค่าระวางเรือที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการขนส่งที่เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยท้าทายที่อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกข้าวไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2567

สำหรับการขยายตลาดข้าวในช่วงที่เหลือของปีนี้ กรมมีแผนจัดกิจกรรม ประกอบด้วย การจัดงาน Thai Rice Networking Forum 2024 เพื่อเชิญผู้เชี่ยวชาญในวงการค้าข้าวโลกมาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวโลกและกระชับความสัมพันธ์กับเครือข่ายพันธมิตรคู่ค้าข้าว การจัดงาน Thailand Rice Convention (TRC) สัญจร ลงพื้นที่จัดสัมมนาถ่ายทอดข้อมูลแนวโน้มความต้องการข้าวในตลาดโลกให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถผลิตข้าวได้ตรงกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจัดการพบหารือกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าข้าวสำคัญ และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง


ที่มาแหล่งข้อมูล:Thairath

<< กลับไปหน้าบทความ

บทความอื่นๆ