ข่าวดี! ลดค่าธรรมเนียมนำเข้าตู้เปล่า พร้อมมาตรการช่วยเหลือผู้ส่งออก
16 กุมภาพันธ์ 2564
ปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากการเกิดโรคระบาด Covid-19 กินระยะเวลามายาวนาน ทำให้ผู้ส่งออกแบกรับค่าขนส่งแพงขึ้นเท่าตัว
เนื่องจากฝั่งเอเชียรวมทั้งไทย กลับมาดำเนินการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรปมากขึ้น สร้างรายได้กลับมาให้ผู้ส่งออกได้ลืมตาอ้าปากฟื้นตัวขึ้นได้ใหม่อีกครั้ง แต่ในทางกลับกัน การส่งออกจากทางสหรัฐฯ มายังเอเชียลดน้อยลง ทำให้ช่วงหลังเกิดภาวะตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน ส่งผลให้ค่าระวางสินค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ครั้งที่ 1/2564 โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน ได้เปิดเผยมาตรการและแนวทางแก้ปัญหาไว้ ดังนี้
- สินค้าส่งออกที่ไม่จำเป็นต้องใช้ตู้ เช่น ผลิตผลทางการเกษตร หรือไม้ยางพารา ให้ใช้เรือ โดยได้มีการเตรียมเรือไว้แล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนกุมภาพันธ์
- ลดค่าธรรมเนียมการนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์เปล่า โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้เป็นผู้ดำเนินการเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
- เปิดโอกาสให้เรือขนาด 400 เมตร 6 สายการเดินเรือ เข้ามาเทียบท่าที่แหลมฉบังได้โดยไม่ต้องขออนุญาตได้ตามที่เอกชนเคยร้องขอไว้ โดยกระทรวงพาณิชย์ภาคเอกชน ร่วมกับ กทท. มีคำสั่งให้เข้ามาดำเนินการขอใบอนุญาต โดยใช้เวลาเพียง 1 วัน จากนั้นจะสามารถเข้าเทียบท่าได้ตลอดระยะเวลา 2 ปี
มาตรการเสริมสำหรับผู้ส่งออกสินค้าไปจีน ได้ผลักดันให้เน้นการขนส่งทางบกมากขึ้น โดยผ่านด่านไทย ไปลาว เวียดนาม และจีน ลดการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ที่ท่าเรือ ซึ่งด่านชายแดนก็ยังไม่เปิดทั้งหมด
ปัจจุบัน ด่านชายแดนเปิดแล้ว 40 ด่าน จากทั้งหมด 97 ด่าน และอยู่ระหว่างเร่งรัดให้เปิดอีก 3 ด่าน คือ
- ด่านป่าแซง จังหวัดอุบลราชธานี
- ด่านเชียงคาน จังหวัดเลย
- ท่าเรือหายโศก จังหวัดหนองคาย
จึงต้องเจรจาเปิดด่านเพิ่มขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งทางบกแทนทางเรือ
แหล่งข้อมูล: